วันอังคารที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2556

CELEB IN SOUTH KOREA


คนดังในเกาหลีใต้
ฉลองครบรอบ 10 ปี ของนิตยสารฟอร์บส์เกาหลี (Forbes Korea) จัดอันดับ 5 คนดังทรงพลังที่สุด"

         
 1. PSY (ไซ) ผู้รับรางวัลหน้าใหม่ 
         
  2. Girls’ Generation (โซนยอชิแด) ลงจากอันดับที่
         
 3. Son Yeon Jae (ซนยอนแจ) ผู้รับรางวัลหน้าใหม่ 
         
 4. Kim Soo Hyun (คิมซูฮยอน) ขึ้นจากอันดับที่ 39
         
 5. Big Bang (บิ๊กแบง) ลงจากอันดับที่ 2
         
ดังนั้นเราจึงเลือก PSY กระแสความแรงไม่มีตกของเพลงฮิต "กังนัม สไตล์" ที่แม้ว่าจะเวลาล่วงเลยมา3เดือนแล้วแต่ท่าเต้นควบม้าอันเลื่องชื่อยังคงระบาดและได้รับความนิยมอย่างมากทั่วเอเชีย และยุโรป รวมถึงอเมริกา ล่าสุด กวาดเงินไปกว่า10ล้านเหรียญซึ่งในการออกเอ็มวีในตอนแรกดังแค่เกาหลีใต้แต่ทนกระแสไม่ไหวลามไปทั่วโลกทำให้เห็นว่า ไซเป็นการใช้กลยุทะ์แบบ GlobalผสมLocalอย่างลงตัวทั้งที่เนื้อเรื่องทำนองนักแสดงเป็นของเกาหลีทั้งหมดแต่ความสนุกสนานจุดเด่นของเอ็มวีเพลงนี้ทำให้คนทั่วดลกให้การยอมรับ ไซซึ่งเป็นแค่ผู้ชายธรรมดาแต่มีพลังในตัวทำให้คนทั่วโลกสนุกตามกับเอ็มวีและเนื้อเพลงของเขา

                                                      ตัวอย่างมิวสิควิดิโอ กัมนังสไตล์







ดังนั้นไซท์เป็นแบรนด์ประเภท Archetype   ผู้สร้างความประหลาดใจ (Jester)


        ตามรากศัพท์แล้ว Jester คือ ตัวตลกหลวง ผู้มีหน้าที่สร้างความบันเทิงให้กับพระราชาและขุนนางในราชสำนัก โดยสามารถหลอกคนดูให้เพลิดเพลินด้วยมุขตลกและกลเม็ดที่สร้างความประหลาดใจใหม่ๆ ชนิดที่ไม่มีใครคาดเดาได้ สำหรับความหมายที่แท้จริงของ Archetype Jester ในเรื่องราวสากลนั้นคือ ผู้ที่มีความคิดสร้างสรรค์แปลกๆใหม่ๆ (Creative) เป็นคนที่รักความสนุกสนาน (Fun) ขี้เล่นและเจ้าเล่ห์แสนกล ชนิดจับไม่ได้ไล่ไม่ทัน ชอบทำในสิ่งที่คนคาดไม่ถึงและการหลอกให้เข้าใจผิด (Misunderstood) ตัวอย่างเช่น มิสเตอร์บีนในภาพยนตร์ นักแสดงตลกในโลกแห่งความเป็นจริงอย่าง จิม แครี่ หรือผู้ที่เปี่ยมไปด้วยความคิดสร้างสรรค์อย่างดีไซน์เนอร์ชั้นนำเช่น Jean Paul Gaultier ซึ่งนำเสนอเสื้อผ้าในสไตล์ที่สุดโต่งเกินคาดเดา
      ศซุ่งไซท์ได้สร้างความสนุกสนาน ความประหลาดใจกับท่าเต้นและทำนองเพลง เกิดกระแสแม้เวลาผ่านไปหลายเดือนกระแสความแรงของกำนังสไตล์ก็ไม่ตก มีคนเต้นล้อเลียน (COVER DANCE) ทั่วโลกไม่แปลกใจเลยที่ความบ้า กล้าทะเล้นของไซท์จะสะกดคนทั้งโลกได้

  แบรนด์ประเภท Archetype Jester นี้สืบเชื้อสายมาจากกลุ่มของพลังงาน (Energy) ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีบุคลิกลักษณะตรงข้ามกับกลุ่มของแก่นสาร (Substance) ซึ่งเต็มไปด้วยสาระและความอุดมสมบูรณ์มั่งคั่งอย่างสิ้นเชิง แบรนด์ที่จะถูกมองว่าเป็นผู้สร้างความประหลาดใจได้นั้น จะต้องแสดงออกถึงความสนุกสนาน (Fun) มีการคิดริเริ่มสิ่งใหม่ๆ (Original) ไม่ชอบเคารพกฏเกณฑ์และเป็นนักแหกคอกตัวยง (Irrelevant) ด้วยเหตุนี้ Archetype Jester จึงเป็นการสร้างตำแหน่งสินค้า (Brand Positioning) ที่ท้าทายความซ้ำซากจำเจจากสิ่งที่นำเสนอแบบเดิมๆ มาสู่วิธีการนำเสนอที่สร้างสรรค์ใหม่ๆซึ่งสนุกสนาน ทำให้แบรนด์สามารถเข้าไปอยู่ในใจผู้บริโภคได้ง่าย ยกตัวอย่างเช่น เบียร์ไฮเนเก้น (Heineken) ซึ่งแม้จะเข้ามาในตลาดไทยตามหลังคู่แข่ง แต่ด้วยวิธีการโฆษณาที่แตกต่างซึ่งนำเอาเรื่องราวในชีวิตประจำวันของกลุ่มเป้าหมายมาหักมุมด้วยมุกตลกขำๆ ทำให้แบรนด์ไฮเนเก้น (Heineken) เป็นที่จดจำและสนใจของผู้บริโภคอย่างรวดเร็ว อีกตัวอย่างหนึ่งที่เห็นได้ชัดในประเทศไทยก็คือแบรนด์แฮปปี้ (HAPPY) ระบบโทรศัพท์มือถือแบบเติมเงินของค่ายดีแทค ซึ่งได้ฉีกตัวเองออกจากแบรนด์ของคู่แข่ง ด้วยจุดขายเรื่องความเป็นระบบโทรศัพท์ที่ใช้ง่ายเหมาะสำหรับทุกๆคนและภาพลักษณ์ที่สบายๆ สนุกสนานแฝงด้วยอารมณ์ขันให้อมยิ้ม 


          เพลงใหม่ GENTLEMAN ที่กำลังเป็นที่นิยมในขณะนี้














6สถานที่เที่ยวยอดฮิตในเกาหลีใต้และข้อห้ามเมื่อไปเยือน


6 สถานที่เที่ยวยอดฮิตในกรุงโซล ที่ห้ามพลาดเด็ดขาด

กรุงโซล


          เมื่อพูดถึงประเทศเกาหลีใต้ จะนึกถึงอะไรกันบ้างครับ ติ๊กต่อก ๆ ...คิดถึงเหล่าบรรดาศิลปินนักแสดง อาหาร และวัฒนธรรมต่าง ๆ กันใช่ไหมล่ะ ถ้าใช่ ก็ถือว่าตอบถูกครับ แต่ยังไม่ถูกทั้งหมด เพราะสิ่งที่เราจะนำเสนอนี้ ไม่ใช่เรื่องของที่กล่าวมาแต่อย่างใด แต่เป็นสิ่งที่เป็นศูนย์กลางสำคัญของประเทศเกาหลีใต้ต่างหาก ใช่แล้วครับ สิ่งที่จะมานำเสนอในวันนี้ก็คือสถานที่เที่ยวฮอตฮิตของกรุงโซลเมืองหลวงของแดนกิมจินั่นเอง

          เมืองหลวงแห่งนี้มีความสำคัญกับเศรษฐกิจของเอเชียเราอยู่พอสมควร อีกทั้งยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่ได้รับความนิยมอย่างมากอีกด้วย แต่คุณรู้หรือเปล่าว่าในกรุงโซลนั้น มีสถานที่อันฮอตฮิตที่หากคุณได้มีโอกาสเดินทางไปที่นั่นแล้วล่ะก็ บอกได้คำเดียวว่า "ห้ามพลาดนะจ๊ะ" ไปดูกันว่าทั้ง 6 สถานที่ซึ่งทางเว็บไซต์ Relax.com.sg ได้แนะนำไว้นั้น จะมีที่ใดบ้างและจะฮอตฮิตขนาดไหน ตามไปดูกันเลย !!

หมู่บ้านบุกชอนฮันอ๊ก (Bukchon Hanok Village)

1. หมู่บ้านบุกชอนฮันอ๊ก (Bukchon Hanok Village)

          หมู่บ้านบุกชอนฮันอ๊กแห่งนี้ ตั้งอยู่ระหว่างพระราชวังเคียงบ๊อคกุง ( Gyeongbokgung Palace) และพระราชวังชางด๊อกกุง (Changdeokgung Palace) ในอดีตเป็นหมู่บ้านที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาก ๆ เพราะเป็นที่อยู่อาศัยของเหล่าบรรดาขุนนางระดับสูง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่แสดงถึงมรดกทางวัฒนธรรมที่มีมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์โชซอน ซึ่งคนพื้นถิ่นจะเรียกหมู่บ้านแห่งนี้แบบง่าย ๆ สั้น ๆ ว่า "หมู่บ้านบุกชอน" ซึ่งในภาษาเกาหลีจะหมายถึงหมู่บ้านทางเหนือนั่นเอง

ย่านวัฒนธรรมอินซา-ดง (Insa-dong Culture District)

2. ย่านวัฒนธรรมอินซา-ดง (Insa-dong Culture District)

          เรื่อย ๆ มาเรียง ๆ เดินจากหมู่บ้านบุกชอนฮันอ๊กลงมาทางใต้ประมาณ 10 - 15 นาที คุณก็จะเจอกับย่านวัฒนธรรมอินซา-ดง ที่มีทั้งห้องแสดงงานศิลปะ ร้านขายเครื่องแกะสลักแบบพื้นเมือง ร้านขายวัตถุโบราณ ภัตตาคารและร้านน้ำชาตามแบบเกาหลีดั้งเดิม ซึ่งนับเป็นสถานที่สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสกับวัฒนธรรมเกาหลีแบบดั้งเดิมแท้ ๆ นอกจากนี้ ที่นี้ยังเป็นแหล่งวัตถุโบราณ ทั้งภาพเขียนเก่าแก่ งานเครื่องปั้นดินเผา งานกระดาษ และเครื่องเรือนเก่าอีกด้วย

พระราชวังเคียงบกกุง (Gyeongbokgung Palace)

3. พระราชวังเคียงบกกุง (Gyeongbokgung Palace)

          พระราชวังแห่งนี้เป็นศูนย์กลางการปกครองในสมัยราชวงศ์โชซอน  ในเขตพระราชวัง ประกอบไปด้วยพระที่นั่งต่าง ๆ มากมาย เช่น ห้องประทับของกษัตริย์และพระราชินี ห้องทรงพระอักษร ท้องพระโรง สวนกลางแจ้ง นอกจากนี้ยังมีพระตำหนักเคียวฮเวรู ที่มีลักษณะเป็นอาคารสองชั้น พระตำหนักถูกสร้างให้ยื่นออกไปกลางสระน้ำ เพื่อใช้เป็นสถานที่สำหรับจัดงานเลี้ยงพระราชทานนสมัยนั้น

มยองดง (Myeongdong)

4. มยองดง (Myeongdong)

          ถ้าบ้านเรามีสยามสแควร์ เป็นแหล่งช้อปปิ้งของเหล่าวัยทีนทั้งเสื้อผ้า เครื่องประดับ เครื่องสำอางและอื่น ๆ ที่กรุงโซลก็มีย่าน มยองดง หรือเมียงดง เป็นแหล่งช้อปปิ้งเช่นเดียวกัน เพราะที่นี้ถือได้ว่าเป็นศูนย์กลางของสินค้าแบรนด์เนมมากมายหลากหลายยี่ห้อ และถ้าเดิน ๆ ช้อปปิ้งจนเริ่มรู้สึกหิวข้าวขึ้นมาแล้วล่ะก็ ไม่ต้องเป็นห่วงไป เพราะที่ก็เป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยร้านอาหารชั้นเลิศมากมายเช่นเดียวกัน เรียกได้ว่า "ช้อป", "ชิม", "เที่ยว" มีอยู่ที่นี่ครบ!

ตลาดนัมแดมุน (Namdaemun Market)

5. ตลาดนัมแดมุน (Namdaemun Market)

          เปลี่ยนบรรยากาศการช้อปปิ้งของหรู ๆ จากย่านเมียงดง มาช้อปปิ้งที่สำเพ็งบ้านเรา เอ๊ย! ล้อเล่นครับ เปลี่ยนมาเป็นตลาดนัมแดมุนต่างหาก เพราะตลาดนัมแดมุนถือเป็นแหล่งค้าขายสินค้าต่าง ๆ ในราคาถูกและซื้อ - ขายในราคาส่งกันจำนวนมาก ที่นี่มีร้านค้ามากมายให้คุณได้เลือกจับจ่ายซื้อของมากหลายพันร้านค้า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ขอเตือนไว้สักนิดว่าหากใครที่ชอบต่อราคาสินค้า ก็ขอให้ระมัดระวังหรือไตร่ตรองให้ดีเสียก่อน เพราะพ่อค้าแม่ค้าที่นี่ ไม่เคยปรานีใครง่าย ๆ เหมือนกันนะจ๊ะ...จะบอกให้

รถไฟใต้ดิน (Subway)

6. รถไฟใต้ดิน (Subway)

          ไหน ๆ ก็ไปถึงกรุงโซลกันแล้ว คุณก็ไม่ควรพลาดที่จะสัมผัสกับวิถีชีวิตของผู้คนด้วยการขึ้นรถไฟใต้ดินในกรุงโซลนั่นเอง การใช้บริการรถไฟใต้ดินในกรุงโซลนั้น ถือเป็นสิ่งจำเป็นและจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปได้มาก แต่อย่างไรก็ดี หากจะใช้บริการรถไฟใต้ดินแล้วล่ะก็ กรุณาพกแผนที่และแผนผังของสถานีต่าง ๆ ติดตัวเอาไว้ด้วยนะครับ เพราะที่กรุงโซลมีสถานีรถไฟใต้ดินเป็นร้อย ๆ สถานีเลยทีเดียว แถมยังแบ่งเส้นทางอีกตั้ง 8 สาย และเชื่อมต่อสถานีไปที่ต่าง ๆ อีกมากมาย ฉะนั้นแล้วอย่าได้ทำแผนที่หายเป็นอันขาดล่ะ

          เป็นอย่างไรกันบ้าง กับทั้ง 6 สถานที่อันฮอตฮิตในกรุงโซลที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ เชื่อได้ว่าอย่างน้อย ๆ ทั้ง 6 สถานที่ที่แนะนำไปนี้ก็จะเป็นไกด์นำทางในการท่องเที่ยวให้กับเพื่อน ๆ กันได้บ้าง ว่าแล้วก็ขอตัวไปเก็บกระเป๋าเดินทางไปกรุงโซลก่อนละกัน แล้วจะเที่ยวเผื่อทุก ๆ คนเลยครับผม !

เกาหลีฟีเวอร์ยังคงซึมลึกไม่จางหาย คนไทยยังเห่อไปเที่ยวเกาหลี และสิ่งที่คาดหวังก็คือภาพประทับจิต มิตรประทับใจเหมือนในซีรีย์เกาหลี หนุ่มสาวหน้าตาดี เมืองน่าอยู่ อาหารน่ากิน เพ้อไปกว่านั้นเผื่อชีวิตจะผกผันเหมือนนางเอกซีรีย์ แต่ก่อนเรื่องราวโรแมนติกจะเกิด รู้ไว้บ้างเถิด สิ่งที่เราไม่ควรทำ กับ 10 อันดับ ข้อห้ามในเกาหลี

ข้อห้ามในเกาหลี อันดับ 10 อย่าหวังพบคนถูกใจ

10 อันดับ ข้อห้ามอย่าทำในเกาหลี
ไอ้ที่คุณวาดฝันมาจากหนังรักเกาหลีทั้งหลายและหวังจะมาพบเจอหนุ่ม ตี๋หล่อผู้สุภาพหรือสาวน่ารักจิ้มลิ้มในแดนกิมจิ คุณควรยุติมันไว้แค่นั้น เพราะหนุ่มสาวส่วนใหญ่ในเกาหลีนั้นหน้าตาธรรมดามากๆ (ค่อนข้างไปทาง…..) ไม่ว่าจะไปเดินในแหล่งที่อุดมวัยรุ่นแค่ไหนก็ยังหาที่โดนใจได้ยาก เพราะที่เราเห็นสวยหล่อในหนังละครนั้นเป็นประชาชนส่วนน้อย (หนุ่มสาวชาวไทยเจ๋งกว่าเยอะ)

ข้อห้ามในเกาหลี อันดับ 9  อย่าหวังพึ่ง ฟุด ฟิต ฟอ ไฟ

10 อันดับ ข้อห้ามอย่าทำในเกาหลี
แม้คุณจะได้ความมั่นใจในการฟุด ฟิต ฟอ ไฟ จากครูเคท หรือ แอนดรูว์ บิ๊กส์ มาแล้วหลายครั้ง แต่การพูดภาษาอังกฤษในเกาหลีต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน เพราะคนที่นี่นอกจากจะไม่พูดอังกฤษแล้ว เขาก็ไม่มองว่าคนพูดอังกฤษได้จะดูเป็นคนเก่งหรือน่าชื่นชมแต่อย่างใด จึงเห็นได้ชัดเจนว่าในเกาหลีมีชาวฝรั่งมาท่องเที่ยวกันน้อยเหลือเกิน 

ข้อห้ามในเกาหลี อันดับ 8  อย่าซื้อของปลอม!

10 อันดับ ข้อห้ามอย่าทำในเกาหลี
ไม่ใช่จะมาโปรโมทเรื่อง ลิขสิทธิ์ทางปัญญา แต่จะบอกว่าคุณภาพของก๊อปปี้ในเกาหลีก็ไม่ต่างจากสินค้าย่านประตูน้ำสักเท่า ไหร่ ดังนั้น หากคุณจะซื้อของปลอมจากที่นั่น และมาย้อมแมวหลอกเพื่อนว่าเป็นสินค้าจากเกาหลีคุณก็อาจจะเสียเพื่อนเอาง่ายๆ

ข้อห้ามในเกาหลี อันดับ 7 อย่ามักง่าย (ในร้านฟาสต์ฟูด)

10 อันดับ ข้อห้ามอย่าทำในเกาหลี
แม้กาแฟเย็นจะไม่เอาอ่าว แต่เรื่องความเป็นระเบียบวินัย และสปิริตการรักษาความสะอาดในร้านฟาสต์ฟูด คงต้องยกให้คนเกาหลี คุณคิดดูสิ นอกจากจะรณรงค์ให้คนเก็บภาชนะ เทขยะลงถังแล้ว ยังละเอียดถึงขั้นให้แยกประเภทภาชนะอีกด้วย และคนเกาหลีทั้งวัยรุ่นขาโจ๋หรือคนแก่แค่ไหน ต่างก็พร้อมใจกันทำเหมืนเป็นเรื่องธรรมดาสามัญ ดังนั้นคุณอย่าเผลอทำตัวเหมือนในบ้านเราเด็ดขาด!

ข้อห้ามในเกาหลี อันดับ 6  อย่าสั่งกาแฟเย็น (ในร้านฟาสต์ฟูด)

10 อันดับ ข้อห้ามอย่าทำในเกาหลี
ไม่เชื่ออย่าลบลู่ ถ้าคุณไม่อยากเสียเงินซื้อน้ำล้างจานฟรีๆ ไม่ได้พูดโอเว่อร์ เพราะกาแฟเย็นในร้านฟาสต์ฟูดของเกาหลีรสชาติแย่จริงๆ สันนิษฐานได้ว่าที่เกาหลีมีร้านกาแฟอยู่มากมาย และผู้คนก็ชอบที่จะดื่มกาแฟตามร้านเหล่านั้นมากกว่าดังนั้น เครื่องดื่มชนิดนี้ในร้านฟาสต์ฟูดจึงไม่ได้รับการปรับคุณภาพตามมาตรฐาน ISO แต่อย่างใด 

ข้อห้ามในเกาหลี อันดับ 5  ระวังถูกชน!

10 อันดับ ข้อห้ามอย่าทำในเกาหลี
ไม่ได้หมายถึงถูกรถชนนะ! คนเกาหลีนี่แหละที่จะชนคุณจนหงายเก๋งได้ แถมยังไม่มีแม้แต่คำขอโทษ เพราะคนที่นี่ทั้งชายและหญิงต่างเดินกันเลนไหนเลนนั้น ใครขวางข้าชน ซึ่งถ้าคุณต้องสัญจรบนทางเท้าอันพลุกพล่านในเกาหลี และแน่ใจว่าไปไม่รอด ขอแนะนำให้สวมฟองน้ำไว้ที่หัวไหล่ตั้งแต่ลงจากเครื่องบิน!

ข้อห้ามในเกาหลี อันดับ 4   อย่าทำอะไรกวนใจโชเฟอร์

10 อันดับ ข้อห้ามอย่าทำในเกาหลี
คนเกาหลีดุมาก อันนี้เรื่องจริง แม้โชเฟอร์แท็กซี่ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น หากคุณนั่งอยู่บนรถของเขาและเกิดนึกจะหยิบจับปรับช่องแอร์อะไรก็ตาม โชเฟอร์จะตวาดคุณทันทีด้วยน้ำเสียงเหมือนคุณจะเบี้ยวค่าโดยสาร และหากโชคไม่ดีคุณจะโดนตีมือดังเพี๊ยะ! ให้งงเล่น

ข้อห้ามในเกาหลี อันดับ 3  อย่าโบกแท็กซี่คันสีดำ

10 อันดับ ข้อห้ามอย่าทำในเกาหลี
คุณอย่าใช้ความเคยชินในเมืองไทย ที่ว่าจะต้องขึ้นแท็กซี่รุ่นใหม่ เท่านั้นเพราะถ้าคุณ เผลอไปใช้บริการแท็กซี่สีดำที่มักจะลวงตาคุณด้วยยี่ห้อเบนซ์ หรือ บีเอ็มดับเบิ้ลยู คุณอาจจะหมดตัวเอาง่ายๆ เพราะรถประเภทนี้คือ รถเดอลุกซ์ (ภาษาเกาหลีเรียก ว่าโมบอม) และมิเตอร์จะเริ่มต้นราคาที่แพงกว่ารถคันอื่นๆ เกือบเท่าตัว! (ทางที่ดีคุณควรจะหัดขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินจะดีกว่า) 

ข้อห้ามในเกาหลี อันดับ 2  ฉ่อน จี ฮยอน ไม่ใช่ จอน จี ฮุน

10 อันดับ ข้อห้ามอย่าทำในเกาหลี
หากคุณคลั่งไคล้ ฉ่อน จี ฮยอน มากถึงขั้นจะบินไปหาเธอที่เกาหลี คุณต้องท่องและออกเสียงชื่อของเธอให้ขึ้นใจว่าฉ่อน จี ฮยอน ไม่ใช่ จอน จี ฮุน ถ้าคุณไปถามคนที่นั่นว่ารู้จัก จอน จี ฮุน บ้างไหมเขาอาจจะเข้าใจว่าบุคคลนี้เป็นอาชญากรตัวร้าย และคุณคือผู้สมคบคิดข้ามแดน (ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นชื่อคน สถานที่ สิ่งของ เมื่ออยู่ที่นั่นแล้วคุณควรออกเสียงให้ถูกต้อง)

ข้อห้ามในเกาหลี อันดับ 1  คุณคือ Tourist ไม่ใช่ Businessman

10 อันดับ ข้อห้ามอย่าทำในเกาหลี
ถ้าคุณไม่อยากเจอปัญหาหนักอกกับหน้าตาเอาเรื่องของ ต.ม. (กองตรวจคนเข้าเมือง) คุณห้ามกรอกจุดประสงค์ในการเข้ามาประเทศเกาหลีใต้ในเอกสารว่า Business อย่างเด็ดขาด มิเช่นนั้นคุณจะต้องเสียเวลากับกิริยาก้าวร้าวและไม่รับฟังเหตุผลของพนักงานที่นั่น จนคุณอาจจะฉุนขาดได้ ดังนั้นไม่ว่าคุณจะมาที่เกาหลีเพื่ออะไร คุณต้องบอกและกรอกไปว่าคุณคือ Tourist

การเตรียมตัวไปเที่ยวเกาหลี


การเตรียมตัวก่อนวันเดินทาง

ท่านควรจะประมาณค่าใช้จ่ายส่วนตัว และแลกเงินไว้ให้พอสำหรับในการเดินทาง และเพื่อไว้สำหรับช้อปปิ้งด้วย (ร้านค้าบางแห่งจะรับบัตรเครดิต แต่บางแห่ง เช่นร้านเล็กๆ จะรับแต่เงินสด) และ ควรให้เบอร์มือถือที่สามารถติดต่อท่านระหว่างดำเนินทัวร์เกาหลีได้ในกรณีฉุกเฉิน (ปกติทางบริษัทฯ จะเก็บบันทึกเบอร์โทรของลูกค้า ตอนที่ทำจองเข้ามา ซึ่งถ้าท่านต้องการเปลี่ยนแปลงเบอร์โทร กรุณาแจ้งเจ้าหน้าที่ก่อนเดินทาง) นอกจากนี้ หากท่านมีโรคประจำตัว หรือทานอาหารบางประเภทไม่ได้ หรือมีข้อจำกัดทางสรีระร่างกาย หรือจะมีการแยกตัวระหว่างทริป, ญาติมาพบ ควรแจ้งให้ผู้จัดทราบล่วงหน้า (ถ้าท่านต้องการออกนอกกรุ๊ปทัวร์ในระหว่างเดินทาง กรุณาแจ้งบริษัทฯ เพื่อพิจารณาก่อนทำการจอง ซึ่งทางบริษัท ของสงวนสิทธิ์พิจารณารับ หรือไม่เป็นกรณีๆ ไป)



วันเดินทาง

ก่อนออกจากบ้าน ควรเตรียมเอกสารให้พร้อมทุกอย่าง ทำเช็คลิส สำหรับเอกสารที่จะต้องเตรียมไปในวันเดินทาง ส่วนกระเป๋าสตางค์/เครื่องคอมพิวเตอร์/เครื่องประดับ/พาสปอร์ต/บัตรเครดิต/เอกสารสำคัญ/กล้องถ่ายรูป และกล้องวีดีโอ/ยาประจำตัว ควรพกติดตัวเสมอ

การเตรียมตัวก่อนขึ้นเครื่องบิน

คณะกรรมการการบินพลเรือน (ซีเอเอซี) ได้ออกกฎใหม่สำหรับผู้โดยสารเที่ยวบินระหว่างประเทศ เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการการรักษาความปลอดภัยระดับสากล
  • gel-law
    ของเหลว เจล และสเปรย์ทุกชนิด ต้องบรรจุในภาชนะที่มีขนาดความจุไม่เกิน 100 มิลลิลิตร สำหรับภาชนะที่เกิน 100 มิลลิลิตร แม้จะบรรจุของเหลว เจล และสเปรย์ เพียงเล็กน้อยก็ไม่สามารถนำติดตัวขึ้นเครื่องบินได้
  • ภาชนะทั้งหมดต้องใส่รวมกันไว้ในถุงพลาสติกใส ซึ่งเปิด – ปิด ผนึกได้ และมีความจุรวมกันไม่เกิน1 ลิตร (1,000 มิลลิลิตร)
  • ผู้โดยสารสามารถนำถุงพลาสติกใสขึ้นเครื่องได้คนละ 1 ถุง โดยต้องแยกออกจากสัมภาระติดตัวอื่น ๆ และให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ ณ จุดตรวจค้น
  • ของเหลว เจล สเปรย์ที่มีความจุเกิน 100 มิลลิลิตร ต้องบรรจุในกระเป๋าสัมภาระที่ท่านจะบรรทุกลงใต้ท้องเครื่องบิน เพื่อผ่านขั้นตอน เช็ค – อิน เท่านั้น
  • ของเหลวที่ได้รับการยกเว้น ได้แก่ นม และอาหารสำหรับเด็กทารกในปริมาณที่เหมาะสม รวมถึงยาที่มีเอกสารกำกับชัดเจน
กฎระเบียบจำกัดของเหลวนำขึ้นเครื่องนี้ จะไม่กระทบต่อการช้อปปิ้งซื้อสินค้าปลอดภาษีของลูกค้า แต่ผู้ซื้อจะต้องเก็บใบเสร็จไว้เป็นหลักฐานแสดงว่าได้ซื้อ ณ วันที่เดินทาง และไม่ควรเปิดแพคเก็จออก
น้ำหนัก และขนาดกระเป๋าเดินทางที่สายการบินอนุญาติ น้ำหนักสัมภาระที่สามารถฝากใต้ท้องเครื่องได้ จะอยู่ที่ไม่เกิน 20 กิโลกรัมต่อท่าน (ไม่ควรเกิน 2 ชิ้น และน้ำหนักรวมแล้วต้องไม่เกิน 20 กิโลกรัม) น้ำหนักกระเป๋าที่สามารถนำติดตัวขึ้นเครื่องได้ จะอยู่ที่ไม่เกิน 5 กิโลกรัมต่อท่าน (1 ชิ้น โดยมีขนาดเล็ก สามารถเก็บใส่สัมภาระกระเป๋าเหนือศรีษะ มีความกว้าง+ยาว+สูง ไม่เกิน 115 เซนติเมตร หรือ 25 เซนติเมตร (9.75 นิ้ว) x 56 เซนติเมตร (21.5 นิ้ว) x 46 เซนติเมตร (18 นิ้ว) ในบางรายการทัวร์ ที่ต้องมีบินด้วยสายการบินภายในประเทศ น้ำหนักของกระเป๋าอาจจะถูกกำหนดให้ต่ำกว่ามาตรฐานได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของแต่ละสายการบิน เช่น ไม่เกิน 15 กิโลกรัมต่อท่าน บางสายการบินการเดินทางเป็นครอบครัว หรือหมู่คณะ สามารถแชร์น้ำหนักกระเป๋าได้

ขั้นตอนการผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองขาออกไปยังต่างประเทศ  หลังจากได้ทำการโหลดกระเป๋าขึ้นเครื่องบินแล้ว และได้รับ boarding pass และ passport คืนจากเจ้าหน้าที่ส่งกรุ๊ป ทัวร์เกาหลี ให้รอฟังคำชี้แจง และเข้าแถวช่องหนังสือเดินทางไทย
  • แสดงหนังสือเดินทาง พร้อม Thai Immigration Bureau (เอกสารตรวจคนเข้าเมืองของประเทศไทย บัตรขาเข้า/บัตรขาออก) ให้เจ้าหน้าที่
  • ผ่านเครื่องเอ็กซเรย์ ขั้นตอนสุดท้ายก่อนถึงประตู (Gate)
  • เมื่อผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองขาออกเรียบร้อย ท่านสามารถเดินเลือกซื้อสินค้าปลอดภาษีได้ตามอัธยาศัย โดยต้องตรวจสอบเวลาจากตั๋วเครื่องบินหรือจากจอของสนามบินเพื่อให้ทันขึ้นเครื่อง

พยายามให้ไปถึง Gate ก่อนเวลานัดสัก 10-15 นาที เนื่องจากบาง Gate จะใช้เวลาเดินค่อนข้างนาน และปกติ gate จะปิดก่อนเครื่องออกประมาณ 30 นาที
ศุลกากร  ประเทศไทยและประเทศเกาหลีใต้อนุญาตให้ซื้อเหล้าได้ 1 ลิตร บุหรี่ 2 คอตตัน เข้า – ออก ประเทศ

ที่สนามบินนานาชาติอินชอน

หลังลงจากเครื่องบิน ให้เตรียมเอกสารเข้าเมือง และอื่น ๆ ให้พร้อม  เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองหรือกรมแรงงานของประเทศเกาหลีไทยหรือประเทศเกาหลีใต้จะพิจารณาให้เฉพาะผู้เดินทางที่ท่องเที่ยว หรือทำธุรกิจโดยถูกกฏหมายเท่านั้น ที่ผ่านออกนอกเมืองได้ โดยอาจจะพิจารณาจาก (เป็นเอกสารที่ขอเตรียมพร้อมไว้ตั้งแต่ก่อนเดินทาง)
  1. หลักฐานการทำงาน เช่น นามบัตร บัตรพนักงาน จดหมายรับรองการทำงานเป็นภาษาอังกฤษ (ฉบับจริง)
  2. หลักฐานการเงิน เช่น เงินสดสกุลยูเอสดอลล่าร์หรือสกุลเงินวอน บัตรเครดิตต่างประเทศ เช่น Visa Card, American Express, Dinners Club หรือ Master Card ต้องนำติดตัวไปด้วย เป็นต้น
  3. ใบรับรองสถานศึกษาหากท่านยังอยู่ในระหว่างการศึกษา (ฉบับจริง) และควรเดินทางกับผู้ปกครอง
  4. นอกจากนี้ ควรเตรียมการแต่งกายที่สุภาพเหมาะสม สำหรับพาสปอร์ตใหม่ ควรนำพาสปอร์ตเล่มเก่าไปด้วย
  5. การแต่งกายที่สุภาพเหมาะสม
  6. ในกรณีที่เดินทางเป็นครอบครัว ควรต่อแถวเดียวกัน และไม่ให้บุคคลอื่นมาคั่นกลาง
หากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง หรือกรมแรงงานยังสงสัยในความสุจริตของท่าน ท่านอาจถูกปฏิเสธการให้เข้าประเทศเกาหลีใต้
ขั้นตอนการเข้าประเทศเกาหลี ให้เตรียมหนังสือเดินทาง และเอกสารที่ทางบริษัท จัดไว้ให้ (พร้อมเซ็นชื่อ ตามที่แจ้งไว้แล้ว) โดยผ่านขั้นตอนดังต่อไปนี้
  • ด่านสุขภาพ ยื่นเอกสารสอบถามด้านสุขภาพ (Korea Health Questionnaire )
  • ด่านตรวจคนเข้าเมือง เข้าแถวช่อง Foreigner (สำหรับชาวต่างประเทศ) พร้อมยื่น Passport และเอกสารตรวจคนเข้าเมืองของประเทศเกาหลีใต้  (Republic ofKorea Immigration Service) จากนั้นรับเล่ม Passport กลับมา
  • ด่านศุลกากร เดินเข้าช่องสีเขียว ยื่นเอกสารศุลกากรเกาหลี (Korea Customs e-Clearance system) เพื่อแสดงว่าไม่มีสิ่งของต้องห้ามนำเข้าประเทศ จากนั้นเดินออกมารวมกลุ่มกันด้านนอก ให้ท่านสังเกต ป้ายชื่อบริษัทฯ หรือ ป้ายชื่อคณะ
หลังจากผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองแล้ว ตรวจเช็คจากจอของสนามบินว่าเที่ยวบินที่เดินทางมานั้น สามารถรับกระเป๋าเดินทางได้ที่สายพานช่องใด หรือสอบถามจากหัวหน้าทัวร์ จากนั้นเดินลงบันไดเลื่อนไปอีกหนึ่งชั้น เพื่อไปรอรับกระเป๋าเดินทางของท่าน (กรุณาตรวจดูกระเป๋าเดินทางให้ดีว่าเป็นของท่าน เพื่อป้องกันการหยิบสลับกัน)

ข้อมูลอื่นๆ ก่อนเดินทาง ทัวร์เกาหลี

ประเทศเกาหลี (South Korea) ได้รับสมญานามว่า “ดินแดนแห่งความสงบยามเช้า” มีขนบธรรมเนียมที่สืบทอดมายาวนานถึง 5,000 ปี    คนเกาหลีจะเดินเร็วมาก และอาจจะมี การกระทบกระทั่งกัน แต่จะไม่มีการ “ขอโทษ” ถือเป็นเรื่องปกติ
เวลาที่แตกต่าง เกาหลีเร็วกว่าเมืองไทย 2 ชั่วโมง
 korea-banknote
เงินตราของเกาหลีใต้ สกุลเงิน “วอน” โดยเขียนด้วยตัวอักษรโรมัน “W” ธนบัตรมีราคา 1000, 5000, 10000 วอน เหรียญมีราคา 10, 50,100,500 วอน สกุลเงินวอน ต่อเงินดอลล่าร์ = USD 1 = WON 1,230 ต่อ 27-29 บาท ต่อ 1000 วอน บัตรเครดิตคาร์ดสามารถนำไปใช้กับร้านค้าปลอดภาษีหรือร้านค้า ,ห้าง ยกเว้นตลาดพื้นเมือง
อุณหภูมิและการแต่งกาย ดินฟ้าอากาศ เกาหลีมี 4 ฤดู ที่แตกต่างกันชัดเจน สามารถเช็คก่อนเดินทาง หรือสอบถามเจ้าหน้าที่ สภาพอากาศที่เกาหลีใต้ แต่ละฤดู สามารถดูได้ที่ click
ควรเตรียม เสื้อ หมวก ถุงเท้า รองเท้าแบบสวมใส่สบายหรือรองเท้ากีฬาหรือผ้าใบ แว่นกันแดด ครีมทาผิว ลิปมัน แปรงสีฟัน ยาสีฟัน และแชมพูสระผม กล้อง และฟิล์ม
ห้องพัก โทรทัศน์ในห้องพัก ถ้าอยู่ในกรุงโซลมักมีระบบ T.V. paid โดยทั่วไปแชมพู แปรงสีฟัน ที่โกนหนวด โรงแรมมักวางไว้นอกห้องน้ำ หรือที่บนตู้เย็น หากผู้พักนำไปใช้จะต้องเสียค่าบริการ น้ำดื่มที่อยู่ในกาน้ำดื่มฟรี หากต้องการน้ำร้อนให้โทรบอก Room Service หรือวานไกด์ช่วยขอ โดยน้ำจากท่อประปาในห้องพักไม่ควรดื่ม ช่วงฤดูร้อน มีบริการแอร์หรือพัดลม ช่วงฤดูหนาวมีบริการฮีทเตอร์ ช่วงฤดูหนาวมักไม่มีบริการแอร์ แต่จะมีฮีทเตอร์ ถ้าร้อนเกินไปสามารถเปิดหน้าต่างหรือช่องลมออกไปได้ น้ำดื่ม ขนมทานเล่นหรือบะหมี่สำเร็จรูป สามารถซื้อจากร้านซุปเปอร์ใกล้โรงแรม หมายเหตุ น้ำดื่มที่ขายโดยทั่วไปในเกาหลี จะเป็นน้ำแร่ ประมาณขวดละ500 – 1500 วอนแล้วแต่ยี่ห้อ น้ำอัดลมหรือน้ำผลไม้โดยทั่วไป ประมาณ 700 – 1500 วอนแล้วแต่ยี่ห้อ ห้องน้ำ โดยทั่วไปจะบริการฟรี สามารถเข้าที่สาธารณะ ร้านค้า ใกล้ลานจอดรถ โรงแรมและทั่วไป
ร้านอาหารเกาหลี โดยทั่วไปมักจะเป็นอาหารทานเพื่อโภชนาการ และสุขภาพ จะไม่ออกรสจัด และมักจะเป็นการทานแบบแบ่งปัน คือ 1 ชุดต่อ 4 ท่าน และมีเครื่องเคียงแบบต่าง ๆ พร้อมข้าวสวยและน้ำซุป ไม่รวมค่าเครื่องดื่ม โดยทั่วไปน้ำอัดลมประมาณ 2000 – 4000 วอน ส่วนเหล้าเกาหลีพื้นเมืองหรือเบียร์เกาหลีประมาณ 4000 – 5000 วอน ข้อแนะนำ หากท่านมีปัญหาเรื่องอาหาร กรุณาแจ้งทางผู้จัดทราบล่วงหน้า อาหารและเครื่องดื่มที่ท่านสั่งพิเศษระหว่างรับประทานอาหาร กรุณาชำระเองเมื่อท่านสั่งเพิ่ม ในกรณีที่ท่านชอบอาหารรสจัด ท่านสามารถนำเครื่องปรุงไปเองได้ (ห้ามนำผลไม้และเนื้อสัตว์ทุกชนิดเข้าประเทศ หากศุลกากรพบจะต้องเสียค่าปรับ)
การใช้โทรศัพท์ในประเทศเกาหลี ควรซื้อบัตร 5000 วอน หรือ 1000 วอน โทรจากตู้บัตรโทรศัพท์ซึ่งมีบริการเกือบทุกจุดที่ไปเที่ยวและที่พัก ถ้าโทรจากห้องพักในโรงแรมจะแพงกว่าปกติ 20 – 30 % การโทรศัพท์ด้วยเครื่องโทรศัพท์สาธารณะหรือโทรศัพท์โรงแรม หมุน 001 (หรือ 002 หรือ 008) -66 + รหัสจังหวัด ตัด 0 ข้างหน้าทิ้ง + เบอร์โทรศัพท์บ้าน เช่น โทรเข้ากรุงเทพ หมุน 001-662-123-4567 โทรเข้าชลบุรี หมุน 001-6638-123-456 โทรศัพท์เข้ามือถือ หมุน 001-668 + เบอร์โทรศัพท์มือถือ เช่น 001-668-123-4567


korea-plug
ระบบไฟฟ้าของประเทศเกาหลีใต้ จะใช้กระแสไฟฟ้า 110 หรือ 220 โวล์ต หัวกลมโตเหมือนปลั๊กเตารีด ก่อนเสียบตรวจสอบดูให้แน่ชัดก่อน เพื่อความปลอดภัย (ในโรงแรมเกือบทั้งหมดเป็น 220โวล์ต)

ธรรมเนียมการทิป โดยปกติร้านอาหาร โรงแรมจะมีบริกรอำนวยความสะดวกน้อยมาก ผู้ใช้บริการต้องดูแลตัวเอง ยกเว้นร้านอาหารใหญ่ โรงแรม เพื่อการขอบคุณในการให้บริการที่ดี ควรเตรียมเป็นธนบัตร (อย่าลืม)  (ท่านสามารถให้มากได้เท่าที่ท่านประทับใจ) เช่น บริกรยกกระเป๋าควรให้ทิป 1000 วอน ต่อใบใหญ่ ทิปคนขับรถและไกด์โดยทั่วไปวันละ 4,000 วอน เช่น เที่ยว 3 คืน 5 วัน เตรียม 20,000 วอน หัวหน้าทัวร์วันละ 50 บาท หรือมากเท่าที่ท่านประทับใจ เป็นต้น
ในวันกลับ กรุณาเตรียมพาสปอร์ต ให้กับไกด์ท้องถิ่น เพื่อทำการเช็คอินให้กับท่าน ลูกค้าทุกท่านจะต้องนำพาสปอร์ตและบัตรที่นั่งมาชี้กระเป๋าของลูกค้าเองหรือครอบครัวเพื่อทำการส่งกระเป๋าเข้าใต้ท้องเครื่องบินกับเจ้าหน้าที่สายบินโดยตรง เที่ยวบินขากลับ

 ฟิลม์และกล้องถ่ายรูป
ควรเตรียมไปให้เพียงพอโดยเฉพาะฟิล์มเพราะที่ต่างประเทศราคาจะสูงมากโดยเฉพาะ ตามสถานที่ท่องเที่ยว และควรเตรียมถ่านใส่กล้องถ่ายรูปไปด้วยเพราะอากาศเย็นถ่านจะเสื่อมสภาพเร็ว
 การใช้โทรศัพท์
บัตรโทรศัพท์มีขายทั่วไป ตามเคาน์เตอร์โรงแรม, ซุปเปอร์มาร์เก็ต ราคา 3,000 / 5,000 และ 10,000 วอน
โทรกลับประเทศไทย
กรุงเทพฯ : 001-66-2-หมายเลขโทรศัพท์เจ็ดหลัก
ต่างจังหวัด : 001-66-ตามด้วยรหัสจังหวัด-หมายเลขโทรศัพท์หกหลัก
โทรศัพท์ระบบ HUTCH นำไปใช้ได้เลยโดยขอเปิด ROMMING ใช้บริการในต่างประเทศ ก่อนการเดินทางอย่างน้อย 7 วัน
 การให้ทิป
การให้ทิปในประเทศเกาหลีมีความสำคัญมาก โดยปกติตามร้านอาหาร,โรงแรมจะไม่มีบริกร คอยอำนวยความสะดวก ผู้ใช้บริการต้องดูแลตัวเอง อาทิ นำกระเป๋าขึ้นห้องพักเอง ดังนั้นถ้าใช้บริการของพนักงานควรให้ทิปตามธรรมเนียมปฏิบัติ ส่วนคนขับรถ ไกด์ท้องถิ่น ที่อำนวยความสะดวกระหว่างทัวร์ ปกติเฉลี่ยวันละ 3,000 วอน / คน / วัน
 อาหารการกิน
อาหารนานาชนิดมากหลายพบได้ในประเทศเกาหลี แรกเริ่มเดิมทีเกาหลีเป็นประเทศเกษตรกรรม และชาวเกาหลีเพาะปลูกข้าวเป็นอาหารหลักมาตั้งแต่โบราณกาล มาในสมัยนี้อาหารเกาหลีจะเป็นตำหรับซึ่งประกอบไปด้วยเนื้อสัตว์นานาชนิด ปลา พร้อมด้วยพืชสีเขียวและผักต่างๆ อาหารหมักดองต่างๆ เช่น กิมจิ จอทกอล (jeotgal) (อาหารทะเลหมักเกลือ) และ ดนจัง (deonjang) (ถั่วเหลืองหมักเหลว) ขึ้นชื่อในรสชาติโดยเฉพาะและมีคุณค่าทางโภชนาการสูง
 รายการช้อปปิ้ง
เครื่องแต่งกาย, อุปกรณ์กีฬา, เครื่องหนัง และสินค้าประเภทขนสัตว์, เพชรนิลจินดา, ของเก่าและวัตถุโบราณ, โสม, ศิลปะและงานฝีมือพื้นเมือง, เหล้าและชาพื้นเมือง, กิมจิและอาหารอื่นๆ
 สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ
  • พระราชวังเคียงบก
  • หอคอยโซล
  • หมู่บ้านนัมซานกลฮันอก
  • โรงละครแห่งชาติ
  • ตลาดนัมแดมุน
  • ตลาดทงแดมุน
  • หมู่บ้านพื้นเมืองเกาหลี
  • ป้อมฮวาซอง
  • เอเวอร์แลนด์
  • อุทยานแห่งชาติเขาซอรักซาน
  • สถานเล่นสกียงเพียง (หุบเขามังกร)
  • พิพิธภัณฑ์แท็ดดีแบร์
  • เกาะนามิ
 เทศกาลสำคัญ
  • เทศกาลภาพยนตร์เมืองปูซาน : ตั้งแต่เดือน ก.ย.-ต.ค. ของทุกปี ผู้ที่ชื่นชอบการชมภาพยนตร์ ต้องไม่พลาดเทศกาลหนังที่เมืองปูซานที่โรงละคร Nampo-dong และเวทีกลางแจ้งบริเวณอ่าว Suyeongman ในเทศกาลนี้ คุณจะได้ชมภาพยนตร์กว่า 200 เรื่องจาก 60 ประเทศ รวมถึงหนังสารคดี และภาพยนตร์เคลื่อนไหวต่างๆ
  • เทศกาลดอกไม้บาน (ช่วงฤดูใบไม้ผลิ) : เกาหลีเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิตั้งแต่เดือนมีนาคม ดอกไม้หลากชนิดจะออกดอกกันในตอนนี้ ดอกเรปซีดจะออกดอกไปทั่ว บริเวณ นอกจากนั้นยังมีดอกซากุระ ดอกอาเซลเลีย ดอกฟอร์ซีเทีย และดอกแมคโนเลียที่กลิ่นหอม ภูเขาและสวนของเกาหลีจะเต็มไปด้วยสีสันต่างๆ น่าดู
  • เทศกาลโคลนโพเรียง (Boryong Mud festival) (ช่วงฤดูร้อน) : เทศกาลโคลนโพเรียง นี้นักท่องเที่ยวจะได้รับความสนุกสนานจากการนวดโคลน การเพ้นท์ร่างกายด้วยโคลนและอื่นๆอีก การเล่นสไลเดอร์บนโคลน การเล่นถังโคลนยักษ์ และโปรแกรมที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานและการแข่งขันต่างๆ รวมทั้งของรางวัลต่างๆมากมาย
  • เทศกาลระบำหน้ากากนานาชาติอันดอง (Andong International Mask Dance festival) (ช่วงฤดูใบไม้ร่วง) : เทศกาลระบำหน้ากากนานาชาติอันดองจัดขึ้นริมแม่น้ำในหมู่บ้านมีการแสดง ระบำหน้ากากฮาโฮเป็นจุดเด่นรวมถึงระบำหน้ากากของเกาหลีและของต่างประเทศและละคร ฮาโฮเบียวซินกุต ทัลลอรี (Hahoe Byeolsingut Tallori) ละครรำหน้าการนักบวชซึ่งได้มีการเล่นมากว่า 500 ปีในหมู่บ้านฮาโฮ ซึ่งสวดขอพรเทวดาผู้พิทักษ์ให้มีสุขภาพดีและสันติสุขในชุมชน เพิ่มเติมสีสันด้วยคำถากถางอันเผ็ดร้อนต่อ บรรดาชนชั้นสูงที่ทุจริตและพระที่กระทำผิดหรือพระที่ฟุ่มเฟือย
  • เทศกาลตกปลาน้ำแข็ง ( Icefish festival) (ช่วงฤดูหนาว) : ที่มีขึ้นเพียงปีละครั้ง ตลอดกลางเดือนมกราคมถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์ ท่านสามารถจับปลาตัวเป็นๆ ทั้งเล็กและใหญ่ด้วยสองมือ หรือเช่าอุปกรณ์ตกปลา ท่านสามารถที่จะเจาะน้ำแข็งเพื่อจับปลาบิงออตัวเป็น ๆ ด้วยอุปกรณ์ตกปลาที่มีเหยื่อหนอนตัวเล็ก ๆ เป็นตัวล่อ รับประทานปลาสด ๆ แบบซาซิมิ หรือย่างปลาสด หรือทอดปลาสด เดินเล่นบนลานน้ำแข็ง



Tip โปรดเก็บรักษาพาสปอร์ตให้ดีที่สุด หากไปไหนทุกครั้งไม่ควรไปเพียงลำพังและควรนำนามบัตรโรงแรมติดตัวการท่องเที่ยวเป็นกำไรชีวิต หากท่านทำใจให้สนุกสนาน และปฏิบัติตามข้อแนะนำพิเศษนี้ ท่านจะเที่ยวอย่างสบายใจ สบายกาย และมีความสุข วัฒนธรรมบางอย่างอาจดูแปลกตาหรือตลก โปรดคิดเสียว่า  เข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตาม บริการในร้านอาหาร และสถานที่ต่างๆ อาจไม่สุภาพอ่อนน้อมหรือบริการทุกอย่างเหมือนเมืองไทย อาหารบางอย่างท่านอาจไม่ชอบ หรือ รสชาติไม่อร่อย โปรดคิดเสียว่าท่านลองมาชิมและลิ้มลองอาหารที่แปลกและใหม่ และเรียนรู้วัฒนธรรมที่แตกต่าง